ผศ.นพ.สมเกียรติ โสภณธรรมรักษ์
ผศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์
ผศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว ได้แก่ ผนังกั้นหัวใจห้องบนหรือห้องล่างรั่ว (atrial or ventricular septal defect) หรือ เส้นเลือดเกิน (patent ductus arteriosus)
บุตรหลานของท่าน ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ชนิดไม่เขียว
มีคำแนะนำการดูแล ในกรณีที่รูรั่วมีขนาดใหญ่ ดังนี้
1. ผู้ป่วยจะเป็นหวัดได้บ่อย ๆ ไม่ควรพาผู้ป่วยไปในที่ชุมชนมีผู้คนหนาแน่น หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ถ้าเป็นหวัดควรรีบรักษาให้หายโดยเร็ว ผู้ป่วยจะมีผลแทรกซ้อนจากหวัดได้ง่ายและ บ่อยกว่าเด็กทั่วไป
2. รับประทานอาหารได้ทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดเป็นของแสลง แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เค็มจัด เช่น ไข่เค็ม ปลาเค็ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น ปรุงอาหารตามปกติแต่ไม่ควรใส่เกลือเพิ่ม เด็กสามารถเติบโตได้พอสมควร ถ้าได้อาหารครบทุกหมู่ เช่น เนื้อ นม ไข่ ผัก ผลไม้ โดยเน้นอาหารพวกไขมัน โดยใช้น้ำมันพืชในการทอด ผัด แทนการต้มหรือลวก
3. รับประทานยาที่แพทย์ให้อย่างสม่ำเสมอ จะมียาอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
3.1 ยารักษาอาการทั่ว ๆ ไป ยาลดไข้ ยาบรรเทาอาการหวัด ยาบำรุงร่างกาย ยากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ยาบำรุง ไม่จำเป็นต้องให้ทุกวันก็ได้เพราะใช้เสริมอาหาร
3.2 ยารักษาหรือบรรเทาอาการทางหัวใจ ได้แก่ ยาLanoxin ยาขับปัสสาวะ ให้กินยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ โดยมีข้อแนะนำดังนี้
1) ถ้าได้ยาขับปัสสาวะร่วมด้วย ควรกินผลไม้ มากขึ้น เช่น กล้วย ส้ม สับปะรด เป็นต้น
2) ในระหว่างที่รับประทานยา โดยเฉพาะยา Lanoxin ถ้ามีอาการชีพจรเต้นไม่ปกติหรือคลื่นไส้อาเจียนมาก ควรหยุดยาทันทีและรีบมาพบแพทย์ ควรนำซองยาไปทุกครั้งที่พบแพทย์เพื่อประโยชน์แก่ตัวผู้ป่วยเอง
3.1 ยารักษาอาการทั่ว ๆ ไป ยาลดไข้ ยาบรรเทาอาการหวัด ยาบำรุงร่างกาย ยากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ยาบำรุง ไม่จำเป็นต้องให้ทุกวันก็ได้เพราะใช้เสริมอาหาร
3.2 ยารักษาหรือบรรเทาอาการทางหัวใจ ได้แก่ ยาLanoxin ยาขับปัสสาวะ ให้กินยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ โดยมีข้อแนะนำดังนี้
1) ถ้าได้ยาขับปัสสาวะร่วมด้วย ควรกินผลไม้ มากขึ้น เช่น กล้วย ส้ม สับปะรด เป็นต้น
2) ในระหว่างที่รับประทานยา โดยเฉพาะยา Lanoxin ถ้ามีอาการชีพจรเต้นไม่ปกติหรือคลื่นไส้อาเจียนมาก ควรหยุดยาทันทีและรีบมาพบแพทย์ ควรนำซองยาไปทุกครั้งที่พบแพทย์เพื่อประโยชน์แก่ตัวผู้ป่วยเอง
4. ดูแลฟันของบุตรหลานท่านให้ดีสุขภาพฟันและเหงือกที่ไม่สมบูรณ์นั้น จะเป็นแหล่งเชื้อโรคที่สำคัญ ควรดูแลฟันตั้งแต่ผู้ป่วยอายุยังน้อย ๆ โดยเริ่มจากการเช็ดเหงือกก่อนนอน เพื่อให้เด็กชินกับการทำความสะอาดฟัน จากนั้นเริ่มเช็ดฟันแปรงฟันและพาผู้ป่วยไปตรวจฟัน อย่างน้อยปีละครั้ง ฟันผุเป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคอยู่มากมาย อาจเป็นแหล่งกระจายเชื้อให้ผู้ป่วยติดเชื้อในหัวใจได้
5. ความผิดปกติที่หัวใจนั้นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมในเวลาต่อมา แพทย์จะเป็นผู้บอกในเวลาต่อมาว่าสามารถให้ความช่วยเหลือบุตรหลานท่านด้วยวิธีใดบ้าง ถ้าหากต้องผ่าตัด จะบอกเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง
5. ความผิดปกติที่หัวใจนั้นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมในเวลาต่อมา แพทย์จะเป็นผู้บอกในเวลาต่อมาว่าสามารถให้ความช่วยเหลือบุตรหลานท่านด้วยวิธีใดบ้าง ถ้าหากต้องผ่าตัด จะบอกเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง
6. ให้นำผู้ป่วยมาติดตามรับการรักษาเป็นระยะตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยเอง ถ้ามีปัญหาแทรกซ้อนเกิดขึ้นก็จะสามารถช่วยได้เร็วขึ้น
7. หากบุตรหลานของท่านต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม ด้วยการใส่สายสวนเข้าภายในตัวร่างกาย เช่น ส่องกล้องดูอวัยวะภายใน หรือตรวจรักษาฟันด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม ให้แจ้งแก่แพทย์ผู้ดูแลเสมอว่าบุตรหลานท่านเป็นโรคหัวใจ จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ(ยาฆ่าเชื้อโรค) ก่อนเสมอ โดยให้รับประทานยาตามสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากประการหนึ่ง เนื่องจากการตรวจหรือรักษาดังกล่าวข้างต้น สามารถทำให้เกิดเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจในภายหลังได้
8. รับวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ตามระยะเวลาเหมือนเด็กปกติทั่วไปได้
ในกรณีที่รูรั่วมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยมักไม่จำเป็นต้องรับประทานยาโรคหัวใจ และมักไม่มีอาการเหนื่อยง่ายหรือเลี้ยงไม่โต การดูแลโดยทั่วไปจึงเหมือนเด็กปกติ แต่จำเป็นต้องดูแลสุขภาพปากและฟันให้แข็งแรง และส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดระหว่างทำฟัน รวมทั่งต้องมารับการติดตามอาการตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้ไม่มีอาการ แต่ก็มีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ลิ้นหัวใจหย่อนหรือรั่ว เป๋นต้น
7. หากบุตรหลานของท่านต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม ด้วยการใส่สายสวนเข้าภายในตัวร่างกาย เช่น ส่องกล้องดูอวัยวะภายใน หรือตรวจรักษาฟันด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม ให้แจ้งแก่แพทย์ผู้ดูแลเสมอว่าบุตรหลานท่านเป็นโรคหัวใจ จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ(ยาฆ่าเชื้อโรค) ก่อนเสมอ โดยให้รับประทานยาตามสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากประการหนึ่ง เนื่องจากการตรวจหรือรักษาดังกล่าวข้างต้น สามารถทำให้เกิดเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจในภายหลังได้
8. รับวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ตามระยะเวลาเหมือนเด็กปกติทั่วไปได้
ในกรณีที่รูรั่วมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยมักไม่จำเป็นต้องรับประทานยาโรคหัวใจ และมักไม่มีอาการเหนื่อยง่ายหรือเลี้ยงไม่โต การดูแลโดยทั่วไปจึงเหมือนเด็กปกติ แต่จำเป็นต้องดูแลสุขภาพปากและฟันให้แข็งแรง และส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดระหว่างทำฟัน รวมทั่งต้องมารับการติดตามอาการตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้ไม่มีอาการ แต่ก็มีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ลิ้นหัวใจหย่อนหรือรั่ว เป๋นต้น